นายกแพทองธาร ลงพื้นที่ด่วนน้ำท่วมภาคใต้

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารระดับสูงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ ซึ่งกำลังเผชิญกับอุทกภัยหนักจากมรสุมที่พัดกระหน่ำ ส่งผลให้หลายจังหวัดต้องเผชิญกับน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน
โดยเฉพาะจังหวัดชุมพรสุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาจากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่าภาคใต้ได้รับผลกระทบจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่หลายแห่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา,ชุมพรและสุราษฎร์ธานี ถูกน้ำท่วมสูง บ้านเรือนได้รับความเสียหายดินโคลนถล่ม ถนนหลายสายไม่สามารถสัญจรได้และประชาชนจำนวนมากต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พร้อมคณะเดินทางถึงจังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงเช้า โดยลงพื้นที่หมู่บ้านต้นน้ำบริเวณอำเภอลานสกา ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด และได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตพร้อมทั้งมอบถุงยังชีพและอุปกรณ์จำเป็นเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น และได้กล่าวว่า “รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนและจะดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยอย่างเป็นรูปธรรม”ในส่วนนี้ได้มีแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูระยะสั้นและระยะยาวถึงมาตรการช่วยเหลือที่รัฐบาลได้วางแผนไว้ ดังนี้มาตรการเร่งด่วน
1. การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้จัดตั้งทีมกู้ภัยและอาสาสมัครในการเข้าช่วยเหลือผู้คนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ที่มีความเสี่ยงสูงและจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม
2.การฟื้นฟูเบื้องต้น ซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติน้ำท่วมและฟื้นฟูถนน สะพาน ระบบไฟฟ้าให้กลับมาใช้งานปกติได้
มาตรการระยะยาว
1.โครงการป้องกันน้ำท่วมถาวร จัดสรรงบประมาณในการขุดลอกคลอง ปรับปรุงระบบของการระบายน้ำไปในทางที่ดีขึ้น สร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติม
2.การฟื้นฟูอาชีพและเศรษฐกิจ ให้เงินช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเกษตรกรประมงที่ได้รับผลกระทบ
และชาวบ้านได้แสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์นี้ว่า
ขอบคุณความช่วยเหลือจากรัฐบาล ขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่มาดูความเดือดร้อนด้วยตัวเอง รู้สึกอุ่นใจมากขึ้นที่ได้เห็นมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจน