Jimbo 
“ดิไอคอน กรุ๊ป” กับคดีฉ้อโกงประชาชนการฟ้องร้องและกระบวนการยุติธรรมที่กำลังเป็นที่จับตามอง
วันที่ 9 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” และนายกันต์ กันตถาวร หรือ “บอสกันต์” พร้อมพวกรวม 16 คนมายังศาลอาญารัชดา เพื่อฟังคำสั่งฟ้องจากอัยการ หลังถูกกล่าวหาในคดีใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ซึ่งถูกตั้งข้อหาฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”
บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ถูกฟ้องร้องในฐานะนิติบุคคล โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจ เป็นผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 พร้อมด้วยบุคคลอื่น ๆ รวมถึงนายกันต์ กันตถาวร หรือ “บอสกันต์” ผู้ต้องหาที่ 19 ในกรณีนี้ ทั้งหมดถูกตั้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมากเกี่ยวข้อง
นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ “บอสพอล” กล่าวเปิดใจก่อนการพิจารณาคดีว่า การที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนางสาวมิน พีชญา หรือ “บอสมิน” และนายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ “บอสแซม” นั้น ถือเป็นเรื่องดีและสะท้อนถึงความกล้าหาญในการยึดมั่นในหลักยุติธรรม
นายวิฑูรย์ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับความยุติธรรมในกระบวนการทางกฎหมาย โดยกล่าวว่าการที่ภาครัฐดำเนินการอายัดทรัพย์สินและปิดช่องทางการต่อสู้ของจำเลย เป็นสิ่งที่อาจไม่เป็นธรรมต่อผู้ต้องหาและครอบครัวของพวกเขา
ทนายความเปิดเผยว่า ได้เข้าเยี่ยมนายกันต์ กันตถาวร หรือ “บอสกันต์” ซึ่งยังคงมีสภาพจิตใจที่เข้มแข็ง แม้ว่าจะไม่ได้ยิ้มแย้มเท่าใดนัก แต่ยังสามารถพูดคุยได้ตามปกติ
ในส่วนของนายยุรนันท์ หรือ “บอสแซม” ทนายกล่าวถึงการเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง พร้อมระบุว่า การที่จำเลยต้องติดคุกไม่ได้ส่งผลเฉพาะต่อพวกเขา แต่ยังส่งผลกระทบถึงครอบครัว โดยเฉพาะภรรยาและลูก ๆ ของพวกเขา
นายวิฑูรย์ยังกล่าวถึงปัญหาในกระบวนการยุติธรรมว่า ปัจจุบันมีผู้ต้องขังระหว่างการพิจารณาคดีมากกว่านักโทษที่ถูกตัดสินความผิดอย่างเด็ดขาดแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการใช้มาตรการควบคุมตัวในลักษณะที่อาจเกินกว่าเหตุ
การที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนางสาวมิน พีชญา และนายยุรนันท์ เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับบางฝ่าย เนื่องจากไม่มีหลักฐานเพียงพอที่เชื่อมโยงทั้งสองคนเข้ากับคดี อย่างไรก็ตาม สำหรับนายวรัตน์พล หรือ “บอสพอล” และนายกันต์ หรือ “บอสกันต์” รวมถึงผู้ต้องหารายอื่น ๆ กระบวนการยุติธรรมยังคงดำเนินต่อไป
