News

พลิกล็อก! ไล่กล้องแล้วไร้เงาชายสองคนที่ ฉุด’น้องอลิซ’ ‘ต้นอ้อ’ ย้ำ ปล่อยเป็นหน้าที่ตำรวจ

Jimbo
/
15 tháng 01, 2025

กรณี “น้องอลิซ” กับปมดราม่า การช่วยเหลือที่กลายเป็นความเข้าใจผิด และผลกระทบต่อผู้ช่วยเหลือ

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ได้เกิดกรณีที่ได้รับความสนใจจากสังคมออนไลน์อย่างมาก หลังจากเพจเฟซบุ๊ก “บันเทิงหน้าตุ๊ด” ได้โพสต์ประกาศตามหา “น้องอลิซ” ที่หายตัวไปนานถึง 6 วันหลังจากไปร่วมงานเคานท์ดาวน์ โดยมีรายงานว่าน้องอลิซถูกชายสองคนจี้ให้หยุดรถแล้วพาตัวไป ซึ่งทำให้ครอบครัวและผู้ติดตามข่าวเกิดความกังวลอย่างมากว่าน้องอาจตกอยู่ในอันตราย

การประกาศดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดกระแสการช่วยเหลือและติดตามค้นหาน้องอลิซในหลายพื้นที่ จนในที่สุด “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง” ผู้ที่เป็นบุคคลสำคัญในการช่วยเหลือได้โพสต์ว่า น้องอลิซถูกพบที่จังหวัดเพชรบุรี และได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายทันที อย่างไรก็ตาม ปมดราม่าเริ่มต้นขึ้นเมื่อข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบในภายหลังชี้ว่าไม่มีเหตุการณ์ชายสองคนฉุดตัวน้องตามที่มีการกล่าวอ้าง

ในระหว่างที่ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง และทีมงานกำลังช่วยเหลือและประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อค้นหาน้องอลิซ มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามาต่อว่าและข่มขู่ต้นอ้อ โดยกล่าวว่า “อย่ามายุ่งกับเคสนี้ ระวังตัวไว้ให้ดี” ซึ่งสร้างความงุนงงและความไม่สบายใจให้กับต้นอ้อและทีมงานที่ตั้งใจช่วยเหลืออย่างแท้จริง

ต้นอ้อได้กล่าวผ่านโพสต์ในเฟซบุ๊กว่า เธอไม่เข้าใจว่าการช่วยเหลือน้องอลิซซึ่งเป็นการทำเพื่อมนุษยธรรมไปทำให้ใครเดือดร้อน ทั้งนี้ ในขณะที่มีการข่มขู่เกิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชนอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ทำให้เธอตัดสินใจแจ้งความเพื่อรักษาสิทธิและปกป้องตัวเอง

 

หลังจากมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทีมสืบสวนได้ข้อสรุปว่า ไม่มีชายสองคนมาฉุดตัวน้องอลิซไปกระทำชำเราแต่อย่างใด ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมา โดยต้นอ้อได้โพสต์ในภายหลังว่า “ถึงน้องจะโกหก แต่พี่ก็ดีใจที่น้องปลอดภัย หลังจากนี้ปล่อยให้เป็นเรื่องของตำรวจ”

 

การเปิดเผยข้อเท็จจริงดังกล่าวทำให้สังคมเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หลายคนแสดงความเห็นใจต้นอ้อและทีมงานที่ทุ่มเทช่วยเหลือ ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามถึงเหตุผลที่น้องอลิซสร้างเรื่องราวดังกล่าวขึ้นมา

 

หลังจากโพสต์ของต้นอ้อถูกแชร์ออกไป มีผู้ติดตามเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น

“โอละพ่อ สร้างเรื่องเพื่ออะไร?”

“สงสารคนที่ช่วยเหลือ แต่ทำไมถึงทำแบบนี้กับคนอื่น?”

“เป็นกำลังใจให้พี่ต้นอ้อค่ะ คนที่ช่วยเหลือสังคมควรได้รับการสนับสนุน”

แม้ว่าความจริงที่ถูกเปิดเผยจะทำให้หลายคนผิดหวัง แต่ผู้คนจำนวนไม่น้อยยังคงยกย่องความพยายามของต้นอ้อและทีมงานในการช่วยเหลือผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก

 

 

 

 

 

โพสท์โดย: Valentine159

อ้างอิงจาก: เพจFB.ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง

icon
Bài viết này có hữu ích với bạn không ?
Đánh giá bài viết
Bài viết liên quan
นักแสดงดัง "โซระ มา" เผยว่า "ผัวตายไปแล้ว ก่อนลูกเกิด"
15 tháng 01, 2025
     นับตั้งแต่ประกาศหมั้นหมาย ในปี 2021 นักแสดงดังของมาเลเซียอย่าง "โซระ มา" ก็ไม่เคยปิดเผยตัวสามีของเธอ เนื่องจากเขาเป็นคนธรรมดา ที่อยู่นอกวงการบันเทิง ซึ่งรวมไปถึงการปกปิดใบหน้าของเขา ในโพสต์สื่อโซเชียลมีเดียของเธอ ขณะจัดงานเลี้ยงอาหารค่ำในวันแต่งงาน ในปี 2022      แต่แล้ววันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] เธอก็ได้โพสต์รูปเท้าของลูกชายของเธอ โดยมีแหวนแต่งงานอยู่ที่เท้าของเขา...
พระมหาวัฒนา ประกาศตัด พระสันติ ออกจากทีมภิกษุอเวนเจอร์ส ปมพฤติกรรมกร้าวร้าวท้าตีท้าต่อย ขัดกับหลักของพระภิกษุอนูปฆาโต
15 tháng 01, 2025
    สืบเนื่องมาจากกรณี พระอาจารย์ 4 รูป หรืออเวนเจอร์สพระ ประกอบด้วย พระมหาอุเทน, พระมหาวัฒนา, พระอาจารย์เล็ก และพระอาจารย์สันติ ได้รวมตัววิพากษ์วิจารณ์การสอนธรรมะของ อ.เบียร์ ฅนตื่นธรรม ว่าเป็นการสอนธรรมที่ไม่เหมาะสม และทำให้คณะสงฆ์ให้ได้รับความเสื่อมเสีย ต่อมา พระมหาวัฒนา, พระมหาสมบูรณ์ และพระมหาสันติ...
คำพูดแม่ทำให้เด็กชายหนีออกจากบ้าน ผ่านไป 16 ปีก็ไม่กลับมา จนต้องประกาศตามหา
15 tháng 01, 2025
ในชีวิตของเรา คำพูดบางคำสามารถมีอิทธิพลอย่างมากต่อคนรอบข้าง โดยเฉพาะคำพูดจากคนที่เรารักและเคารพ เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งในประเทศจีนสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของคำพูดและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมัน 16 ปีที่แล้ว แม่ของเด็กชายคนหนึ่งได้พูดประโยคที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล เธอบอกเขาว่า "ถ้าไม่สามารถหาเงินได้ ก็อย่ากลับมา" คำพูดนี้ทำให้เด็กชายตัดสินใจออกจากบ้าน และไม่เคยกลับมาอีกเลย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อหรือการกลับมาหาแม่และพ่อของเขา เวลาผ่านไป 16 ปี พ่อและแม่ยังคงรอคอยการกลับมาของลูกชาย พวกเขารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะแม่ที่เริ่มรู้สึกว่าคำพูดของเธออาจทำให้ลูกชายรู้สึกไม่ดีและตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เธอเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า...
ด่วน! ฉลามหางยาวใกล้สูญพันธุ์โผล่น้ำตื้นหาดอ่าวลิง เกาะพีพี จ.กระบี่ ก่อนเสียชีวิตในวันถัดมา
15 tháng 01, 2025
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา–หมู่เกาะพีพี ได้รับรายงานการพบ ฉลามหางยาว (Thresher Shark) สัตว์ทะเลหายากใกล้สูญพันธุ์ บริเวณน้ำตื้นของหาดอ่าวลิง เกาะพีพี จ.กระบี่ สร้างความฮือฮาให้กับนักท่องเที่ยวและผู้พบเห็นอย่างมาก เนื่องจากสัตว์ชนิดนี้ไม่ค่อยปรากฏในพื้นที่น้ำตื้น โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการนำตัวฉลามกลับไปปล่อยในน้ำลึกทันที เพื่อป้องกันอันตรายและลดความเครียดของตัวสัตว์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันนี้ (11 ธันวาคม)...
icon